ฮูตีโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันในทะเลแดง และสอยโดรนของสหรัฐฯ ร่วง

ฮูตีโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันในทะเลแดง และสอยโดรนของสหรัฐฯ ร่วง

กบฏฮูตีในเยเมนได้โจมตีเรือบรรทุกน้ำมันชื่อ ‘เอ็มวี แอนโดรเมดา สตาร์’ ที่มีสัญชาติอังกฤษในทะเลแดงจนได้รับความเสียหาย พร้อมกันนี้ยังได้ยิงโดรน ‘MQ-9 Reaper’ ของสหรัฐฯ ตกในเขตปกครองซาดาของเยเมน นายยาห์ยา ซารี โฆษกกลุ่มกบฏฮูตีเผยผ่านคลิปวิดีโอว่าการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันด้วยขีปนาวุธต่อต้านเรือ 3 ลูกและทำให้โดรนสหรัฐฯ ตก มีเป้าหมายเพื่อตอบโต้การกระทำของสหรัฐฯ และพันธมิตรในภูมิภาค

กองบัญชาการกลาง (CENTCOM) ของสหรัฐฯ และสำนักงานปฏิบัติการการค้าทางทะเลแห่งสหราชอาณาจักร (UKMTO) ยืนยันถึงการโจมตีที่เกิดขึ้น แต่ระบุว่าเรือบรรทุกน้ำมันยังสามารถเดินเรือต่อไปได้ นอกจากนี้ ฮูตียังขู่ว่าจะขยายการโจมตีไปยังเรือในมหาสมุทรอินเดียเช่นกัน

สถานีโทรทัศน์ CBS News รายงานว่า โดรน MQ-9 ซึ่งมีราคาสูงถึงลำละ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถูกยิงตกภายในอาณาเขตประเทศเยเมน และกำลังมีการสืบสวนหาสาเหตุ

การโจมตีครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งที่ตึงเครียดในภูมิภาคนี้ และทำให้เกิดความกังวลในหมู่ชุมชนระหว่างประเทศว่าอาจเกิดการขยายตัวของการต่อสู้ไปยังพื้นที่อื่นๆ อีก การตอบโต้ของสหรัฐฯ และพันธมิตรจะเป็นอย่างไรต่อไปนี้ยังคงเป็นคำถามที่รอคำตอบ.

นายอับเดล-มาลิค อัล-ฮูตี หัวหน้าใหญ่ของกลุ่มฮูตี ได้ออกมาประกาศอย่างเปิดเผยว่า พวกเขาจะไม่หยุดการโจมตีจนกว่าอิสราเอลจะยุติการทำสงครามในฉนวนกาซา และระบุว่า “โรงละครแห่งการเผชิญหน้าแห่งใหม่” ได้เปิดฉากขึ้นแล้ว โดยย้ำว่าเป้าหมายต่อไปจะรวมถึงเรือในมหาสมุทรอินเดีย การประกาศนี้ได้สร้างความกังวลเพิ่มเติมในหมู่ชาติพันธมิตรและในวงการค้าทางทะเลทั่วโลก เนื่องจากมหาสมุทรอินเดียเป็นเส้นทางการค้าสำคัญที่เชื่อมโยงระหว่างทวีปต่างๆ

การปฏิบัติการนี้ยังส่งผลกระทบต่อตลาดน้ำมันโลก โดยเฉพาะหลังจากที่เรือบรรทุกน้ำมันถูกโจมตี ส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากความไม่แน่นอนในการขนส่งผ่านทะเลแดง ซึ่งเป็นเส้นทางหลักที่ใช้ในการขนส่งน้ำมันจากตะวันออกกลางไปยังตลาดทั่วโลก

ในขณะที่สหรัฐฯ ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นอย่างเป็นทางการต่อการโจมตีด้วยโดรนนี้ แต่มีรายงานว่าการพิจารณาตอบโต้กำลังเป็นที่พิจารณาในระดับสูง โดยอาจรวมถึงการเพิ่มมาตรการความปลอดภัยให้กับเรือที่เดินทางผ่านทะเลแดงและมหาสมุทรอินเดีย เพื่อป้องกันการโจมตีเพิ่มเติม

ตัวแทนจากสหประชาชาติและหน่วยงานระหว่างประเทศอื่นๆ กำลังเรียกร้องให้มีการเจรจาเพื่อหาทางแก้ไขสถานการณ์อย่างสันติ และเตือนว่าการขยายขอบเขตการโจมตีอาจนำไปสู่สงครามระดับภูมิภาคที่มีผลกระทบต่อการค้าและเศรษฐกิจโลกได้.

#ข่าวต่างประเทศ